ภาพหนุ่มมาดเซอร์บนจักรยานสุดเท่ที่จอดอยู่หน้าอาคารสไตล์วินเทจ ปรากฏอยู่บนบิลบอร์ดขนาดใหญ่บนถนนลาดพร้าว สะดุดตาผู้ผ่านไปมาโดยเฉพาะผม ที่ตอนแรกนึกว่าเป็นป้ายโฆษณาขายเสื้อผ้าหรือร้านขายจักรยานซะอีก ดีที่ตรงมุมเขามีโลโก้เขียนว่า Chapter One Midtown Ladprao 24 ทำให้ทราบว่าที่แท้เป็นโครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ เมื่อเพ่งพิจารณาสารที่ป้ายดังกล่าวสื่อก็เข้าใจได้ว่า คอนโดนี้น่าจะทำมาจับกลุ่มเป้าหมายแบบไอ้หนุ่มฮิปสเตอร์ในภาพนั่นเอง เลยทำให้ผมอยากเห็นว่าหน้าตาคอนโดจะเป็นอย่างไร ช่วงนี้กระแสฮิปสเตอร์กำลังมาแรงซะด้วย..
‘ฮิปสเตอร์ คือเทรนด์ยอดนิยมของคนรุ่นใหม่’ มิตรสหายท่านหนึ่งกล่าวไว้
จริงๆประโยคข้างบนนี้ขัดแย้งในตัวเองเนื่องจาก ‘ฮิปสเตอร์’ โดยเนื้อแท้แล้วแอนตี้ ‘Mass’ มากๆ ฮิปสเตอร์เป็นคำเรียกคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีความคิดสร้างสรรค์ ปฏิเสธกระแสหลัก (Main stream) ดำเนินวิถีชีวิตแบบ Slow life นิยมของเก่าๆซีดๆ มีจิตวิญญาณขบถซึ่งแสดงออกมาทางการแต่งตัว เสื้อผ้าหน้าผม และไลฟ์สไตล์ ที่ไม่เหมือนใครแต่ไม่น่าเกลียดเพราะทุกอย่างถูกคัดสรรมาอย่างดี ดูปุ๊บรู้เลยว่านี่คือ ‘ฮิปสเตอร์’
แต่ด้วยความที่มันเท่ มันเก๋ มันคูล มันแนว มันดูมี’อะไร’ ในที่สุดความฮิปๆชีคๆซีดๆจางๆของฮิปสเตอร์ได้กลายเป็นกระแสให้ชาวบ้านร้านตลาดลอกเลียนแบบ ทำตามจน ณ วันนี้ Hipsterได้กลายเป็น Trend นำสมัยไปแล้วโดยสมบูรณ์ (ซะงั้น)
ผลิตภัณฑ์เพื่อชาวฮิปสเตอร์ได้ทยอยออกมาสนองความต้องการของทั้งฮิปสเตอร์แท้ และฮิปสเตอร์วอนนาบี ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ยีนส์เฟด หนวดปลอม แว่นตากรอบหนา จักรยาน ร้านกาแฟดริป ร้านหนังสือเก่าที่จำหน่าย a-day และ Kinflok เป็นหลัก ร้านแผ่นไวนิล กล้องฟิล์ม รองเท้า กระเป๋าหนังตลอดจนผลิตภัณฑ์สไตล์วินเทจย้อนยุคทุกชนิด ของกินลีนๆคลีนๆ เพื่อการใส่ใจดูแลสุขภาพ เรียกว่ามาทั้งทีก็ต้องมาให้ครบปัจจัยสี่ อาหาร ยา เครื่องนุ่งห่ม ก็มีหมดแล้ว แล้วทำไมที่อยู่อาศัยจะมีไม่ได้ล่ะ จัดมา
“ค อ น โ ด เ พื่ อ ช า ว ฮิ ป ส เ ต อ ร์”
Chapter One Midtown Ladprao24 ของพฤกษาเรียลเอสเตท เสนอคอนโดมิเนียม 37 ชั้น ในสไตล์นิวยอร์ค-อินดัสเตรียล ล๊อฟท์ ผมนี่เห็นภาพตีฟโครงการปั้บถึงกับร้องว่า เฮ้ย นี่มันใช่เลย คอนโดสำหรับฮิปสเตอร์จำแลงอย่างเรานี่หว่า ว่าแล้วก็รีบพุ่งเข้าไปที่ Site เพื่อขอชมห้องตัวอย่างทันที
Location
โครงการอยู่ตรงซอยลาดพร้าว 24 ห่างจุดขึ้นลงรถใต้ดินสถานีลาดพร้าวประมาณ 150 เมตร ในแง่ทำเลถือว่าดีเยี่ยม เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์และรถไฟฟ้า โครงการติดถนนใหญ่ลาดพร้าวแม้ว่าหน้าทางเข้าแคบไปหน่อย แต่ด้วยความเป็นตึกสูงถึง 37 ชั้น ทำให้ Exposure ไม่มีปัญหา ยังไงก็มองเห็น ไม่เป็นคอนโดมิเนียมที่โลกลืม
ในละแวกใกล้เคียงมีโครงการสวนลุมไนท์บาซ่าร์รัชดา ซึ่งย้ายมาจากสวนลุมไนท์เดิม(สวนลุมพินีเก่า) กำลังก่อสร้างอยู่ เกือบจะเสร็จแล้ว ถ้าโครงการนี้เปิดเมื่อไรจะเป็นผลดีต่อย่านรัชดาลาดพร้าวมาก รวมทั้งมีผลต่อราคาคอนโดมิเนียมในย่านนี้ด้วย เพราะโครงการเต็มไปด้วยที่กิน ที่เที่ยว ที่ช๊อปปิ้งมหาศาล และรวมถึงกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าคนรุ่นใหม่ซึ่งบางส่วนจะมาเป็นลูกค้าคอนโดย่านนี้ ทั้งเช่าและทั้งซื้ออยู่เอง น่าจะเพิ่มความคึกคักให้บริเวณนี้เป็นอย่างมาก ก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าสวนลุมไนท์จะเปิดได้เมื่อไร
แอนิเมชั่นของโครงการ ดูเพลินดีฮะ
หน้าตาของคอนโด ออกแบบมาได้อย่างมีสไตล์ แนว Industrial Loft นี่ผมชอบเป็นการส่วนตัวเนื่องจากมีความรู้สึกว่าสไตล์นี้มันไม่ค่อยน่าเบื่อเหมือนแนว Modern ทั่วไป หรือแนว Fluid สเปซเลื่อนไหลซ่อนไฟLED ซึ่งฮิตในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ตอนนี้ก็เริ่มน่าเบื่อแล้วเช่นกัน แนว Loftๆ นี่ละอยู่ยั้งยืนยงกว่า แถมยิ่งเก่ายิ่งสวย อยู่ไปนานๆสีถลอกหน่อย กลายเป็นยิ่งเท่ห์เข้าไปอีก(ฮา) ซึ่งเป็นไปไม่ได้สำหรับการตกแต่งแนวอื่น สีเฝดสีลอกเป็นต้องวิ่งทาใหม่กันวุ่นวาย สไตล์การตกแต่งแนว Loft จึงเป็นที่ถูกใจของฮิปสเตอร์ ร้านกาแฟเท่ๆเก๋ๆสมัยนี้นิยมแต่งร้านสไตล์ “แกล้งเก่า” แบบนี้กันทั้งนั้น อิฐโชว์แนวต้องมา ฝ้าเปลือยต้องมา ประตูหน้าต่างเหล็กต้องมี โครงการ Midtown นี้ก็จัดเต็มตามนั้นเลยฮะ ดูจาก Rendering แล้วแบบว่าซี๊ดมาก (ถ้าของจริงออกมาเหมือนในตีฟนะ)
มาดูรายละเอียดคอนโดจากเวปไซต์ของโครงการกันก่อน
Fact sheet
- พื้นที่โครงการ 2-3-31.9 ไร่ หรือ 1,131.9 ตารางวา
- ลักษณะโครงการ อาคารชุดพักอาศัยสูง 37 ชั้น 1 อาคาร และอาคารจอดรถยนต์ สูง 7 ชั้น 1 อาคาร (อยู่ด้านหลัง)
- จำนวนยูนิต 517 ยูนิต
- ลักษณะห้องชุด
- Studio ขนาดพื้นที่ 23.71 – 24.15ตารางเมตร
- 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 29.61 – 38.66 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 58.64ตารางเมตร
- การตกแต่ง ตกแต่งพร้อมอยู่ (Fully Furnished)
- ราคา เริ่ม 2.4 ล้านบาท เฉลี่ยประมาณ 1.2 แสนบาทต่อตารางเมตร
- ก่อสร้าง เริ่มต้นปี 2558 – ต้นปี 2560
- Project concept แชปเตอร์วัน มิดทาวน์ คอนโดมิเนียมพร้อมตกแต่ง แนว Industrial Loft สูง 37 ชั้น ติด MRT สถานีลาดพร้าว ออกแบบสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดในการใช้ชีวิตที่แตกต่าง ภายในโครงการมี Facilities สำหรับรองรับไลฟ์สไตล์คนเมืองครบครัน อาทิเช่น High Ceiling Lobby สไตล์ Industrial Loft, Sky Pool, Sky Fitness, Sky Terrace บนชั้นดาดฟ้า พร้อม Tennis Court เป็นต้น
Planning
แปลนส่วนพักอาศัย ลักษณะ Double-corridor ทำได้ดีพอใช้ ไม่ยาวเกินไป ไม่ยึกยักวกวน มีช่องเปิดช่องแสง ไม่อับทึบเหมือนคอนโดตัวก่อนๆ ซึ่งผมด่าไว้เยอะเลยเช่นที่ Seed Memories Siam หรือของเจ้าอื่นอย่าง Noble Recole เพราะการไม่มีช่องเปิดตรง corridor นั้นไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทย คอนโดที่ไม่มีการระบายอากาศตรง corridor เมื่อผ่านไปหลายๆปี โถงทางเดินจะมีกลิ่นอับ อบอวลด้วยกลิ่นจักกะแร้บูดของลูกบ้านและยาม ผสมกลิ่นผ้าขี้ริ้วเน่าของแม่บ้านทำให้วิงเวียนศีรษะเมื่อเดินผ่าน
ลิฟท์ 3 ตัว + ลิฟท์ขนของ 1 ตัว แถมยังแยกตึกจอดรถออกไปด้านหลัง มีลิฟท์อีก 2 ตัว waiting time ของลิฟท์อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
Orientation
อาคารมีลักษณะแคบยาว หันด้านยาวเจอทิศตะวันออก-ตะวันตกเต็มๆ ห้อง One-bedroom หันไปตะวันออกและใต้ ห้อง Studio เจอทิศตะวันตก ส่วน Two-bedroom ได้ 3 ทิศ เหนือ-ออก-ตก เลย ห้องที่หันไปทิศตะวันตกก็แน่นอนว่าช่วงบ่ายร้อนตับแลบแน่ แต่ดูจากแผนที่แล้วท่าทางวิวจะสวยอยู่ เห็นตึกสูงๆแถวลาดพร้าว จตุจักรเยอะเลย ก็พอชดเชยได้บ้าง เรื่องร้อนก็ติดม่านใส่ blackout จะช่วยป้องกันความร้อนได้เยอะครับ
Facilities
โครงการให้สระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้าชั้น 36 ทั้งชั้น ดูจาก perspective อลังการน่าลงไปว่ายเล่นมาก Fitness อยู่ชั้น 37 แถมมีสนามเทนนิสบนหลังคาตึกจอดรถด้วย เป็น Gimmick เล็กๆไว้เอาใจฮิปสเตอร์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจกีฬาและสุขภาพ ไม่ค่อยเห็นคอนโดสมัยนี้ให้สนามเทนนิสเท่าไรนัก การมีที่เล่นเทนนิสก็เป็นจุดขายที่ดีอันนึงแต่ตอนเปิดคอนโดใหม่ๆคงตบตีแย่งกันเล่นน่าดู เพราะมันมีแค่สนามเดียว!
Room Analysis
มาดู Planing ในส่วนห้องพักกันบ้าง
โครงการมีห้อง 3 แบบ คือ สตูดิโอ 24 ตร.ม. , One-Bedroom 30 ตร.ม. และ Two-Bedroom 58 ตร.ม.
สตูดิโอ เหมาะสำหรับคนโสด 1BR เหมาะสำหรับหนุ่มสาวอยู่กันเป็นคู่ และ 2BR เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีลูก 1-2 คน
เห็นขนาดพื้นที่แล้วหลายคนคงเพลีย ว่าเฮ้อคอนโดสมัยนี้เนื้อที่เล็กลงเรื่อยๆ แต่โครงการนี้เขาขายแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์บิ๊วอินในห้องเรียบร้อยแล้ว ทำให้แลดูไม่อึดอัดนัก เพราะดีไซเน่อร์จัดวางตำแหน่ง+กำหนดขนาดเฟอร์นิเจอร์ในห้องมาได้ลงตัวเกือบหมด การปรับเปลี่ยนตกแต่งตามสไตล์ที่ใจชอบเพื่อการ “ใช้ชีวิตอย่างแตกต่าง” ตามคอนเส็ปที่เจ้าของโครงการโม้ไว้ใน Fact sheet จึง “ทำไม่ได้” 555 หรือทำได้แต่เสียตังค์ค่ารื้อค่าทำใหม่ ประเด็นนี้ไม่รู้ว่าทางพฤกษามีทางออกให้หรือไม่ ไม่เอาเฟอร์นิเจอร์ อยากแต่งห้องเอง ลดราคาให้ได้หรือเปล่า ผมก็ลืมถามน้องเซลส์แต่คาดว่าคงไม่ได้ หรืออาจจะได้แต่ไม่ลดราคา (ฮา)
One bedroom
ออกแบบได้น่ารัก มีลูกเล่นยึกยักผนังให้เข้ากับโต๊ะวางทีวี ทำให้ดูเป็นสัดส่วนกลมกลืนไปกับกำแพง เช่นเดียวกับตำแหน่งวางตู้เย็นที่ขยักผนังเข้าไปเป็นช่องทำให้ดูเรียบร้อยลงตัว พื้นที่ 30 ตารางเมตรถูกจัดวางได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่เหลือที่ว่างเปล่าประโยชน์เลย เครื่องซักผ้ากำหนดให้วางไว้ตรงระเบียงซึ่งอันนี้ผมชอบกว่าแบบก่อนๆที่วางไว้ตรงเคาน์เตอร์ครัว สุ่มเสี่ยงน้ำรั่วลงพื้นลามิเนตพัง แถมเวลาปั่นแห้งยังหนวกหูรบกวนการดูทีวีมาก น่าจะย้ายไปอยู่ระเบียงตั้งนานแล้ว เครื่องซักผ้าอยู่ที่ระเบียงมีข้อดีอีกอย่างคือทำให้เลือกใช้ได้ทั้งแบบฝาหน้าและฝาบน ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ส่วนตัวผมๆชอบฝาบนมากกว่าเพราะซักผ้าได้เร็วและขนาดใหญ่ ผ้านวมผ้าปูที่นอนก็ซักได้ไม่เปลืองค่าส่งซัก
ชุดครัว ให้ครบชุดทั้งเตา เครื่องดูดควัน เป็นรุ่นดูดควันออกระเบียง คาดว่าปรับปรุงจากการโดนลูกค้าด่าในคอนโดรุ่นก่อนๆที่ให้แบบหมุนวนอากาศ ซึ่งไม่เวิกอย่างแรง ลูกค้าต้องมาต่อท่อดูดควันกันวุ่นวาย แต่จุดที่ต้องปรับปรุงคือ เตาไมโครเวฟติดตั้งสูงไปหน่อย สาวตัวสั้นมีปัญหาแน่ๆ ต้มมาม่าในไมโครเวฟเวลาหยิบออกมาถ้าจัดระเบียบร่างกายไม่ดีอาจมีหกราดหน้าตาแหกได้ ผมไม่แน่ใจว่าห้องตัวอย่างรีบติดตั้งหรืออาจจะติดผิด เพราะแค่เลื่อนชุดตู้ด้านบนลงมาซัก 10 ซม.น่าจะแก้ปัญหานี้ได้แล้ว
ห้องนอน วางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ให้ ถ้าใครอยากเปลี่ยนเป็น 6 ฟุตก็พอทำได้เพราะยังมีสเปซว่างด้านข้างนิดหน่อย แต่อาจจะดูคับห้องไปบ้าง
มีจุดที่ผมไม่ชอบคือ ตำแหน่งคอยล์เย็นเครื่องแอร์ ทิศทางมันเป่าใส่หน้าคนนอนเต็มๆ น่าจะย้ายไปด้านข้างมากกว่า แอร์เป่าหน้าคนนอนไม่สบายครับ มีโอกาสเป็นหวัดง่ายกว่าด้วย แล้วลูกบ้านขี้มูกยืดก็จะด่าแม่คนออกแบบไปตลอดชาติ จุดนี้แก้ไขเถอะครับยังมีเวลา
โต๊ะกินข้าวที่หายไป?
ตอนที่ผมเข้าไปชมห้องตัวอย่างแบบ One-Bedroom ก็สงสัยอยู่ว่า ทำไมแค่ 30 ตารางเมตร มันจัดห้องเป็น 1 ห้องนอนได้แบบโล่งๆ เหลือๆจังฟะ พอดูอีกที อ้าว ไม่มีโต๊ะทานข้าวแฮะ มิน่า ห้องโล่งโปร่งสบายเชียว พอถามน้องเซลส์ก็ได้คำตอบว่า โต๊ะที่ติดกับโซฟานั่งเล่นนั่นแหละ ดีไซเน่อร์กำหนดให้เป็นโต๊ะทำงาน+กินข้าวไปด้วยพร้อมกัน
เมื่อคิดถึง Life style ของหนุ่มสาวปัจจุบัน ที่ต่างคนต่างออกไปทำงานนอกบ้าน ทานข้าวเย็นนอกบ้านซะเป็นส่วนใหญ่ หรือซื้ออาหารสำเร็จรูปมากินที่บ้านก็เวลาไม่ตรงกันอีก หรือต่อให้อยู่พร้อมกันต่างคนต่างก็จิ้มจอ Gadget ของตัวเอง กินไปจิ้มไป การออกแบบโต๊ะกินข้าวแบบนี้อาจจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องของสังคมเสพติดโซเชียวก็เป็นได้ (หดหู่เนาะ) แต่เอาจริงๆยังสามารถลากโต๊ะออกมาวางหัน 90 องศาทำเป็นโต๊ะทานข้าวสำหรับ 3-4 คน ได้นะ (มีคนนึงนั่งบนโซฟา) เวลามีเพื่อนมาเที่ยวบ้านหรือจัดปาร์ตี้เล็กๆ ก็พอกล้อมแกล้มไปได้
Studio
ห้องสตูดิโอ 24 ตารางเมตร ออกแบบมาได้ดีพอใช้ พื้นที่ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ราคาเริ่มต้น 2.4 ล้าน (น่าจะชั้นล่างสุด) สำหรับผู้ที่งบประมาณจำกัด ก็เป็นทางเลือกที่ดี
ชุดครัวสำหรับห้องแบบสตูดิโอ มีไมโครเวฟแต่ไม่มีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันให้ เนื่องจากพื้นที่แคบเกินไป ถ้าชอบทำครัวอย่าเลือกซื้อห้อง type นี้
ข้อเสียอีกอย่างสำหรับแปลนห้องนี้ คือ ห้องน้้ำวางอ่างล้างหน้าไว้ตรงข้ามกับส้วม ทำให้การเข้าห้องน้ำพร้อมกัน 2 คนไม่สะดวก อยากรู้ว่าไม่สะดวกอย่างไรก็ลองไปเข้าดูในห้องตัวอย่างนะครับ มันประดักประเดิดบอกไม่ถูก ประมาณว่าคนนึงแปรงฟันอยู่แล้วเกิดตดออกมาจะทำให้อีกคนที่นั่งฉี่อยู่สลบเหมือดได้ (เข้าเต็มๆหน้า)
Two-bedroom
ห้องแบบสองห้องนอน ห้องนี้จัดได้ลงตัวมาก แถมได้ผนังติดภายนอกถึง 3 ด้าน ทำให้ทุกห้องได้แสงธรรมชาติ แม้แต่ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ยังมีหน้าต่าง ซึ่งจุดนี้ทำให้ห้องน้ำถูกสุขอนามัยไฮจีน ชอบฮะ
นอกจากนี้ดีไซเน่อร์ยังจัดบริเวณโถงทางเข้าเป็นตู้รองเท้าและเบาะนั่งสำหรับใส่รองเท้าด้วย เลยเป็นห้อง type เดียวในตึกที่มีตู้เก็บรองเท้าเป็นสัดเป็นส่วน ส่วนห้องแบบอื่นๆก็ปล่อยตามยถากรรมกันไป ใครชอบความเรียบร้อยก็ไปหาซื้อตู้รองเท้ามาติดเอาเอง
Tone การตกแต่งของทุกห้องจะเป็นแนวอุ่นๆวอร์มๆ สีไม้เป็นน้ำตาลซีด เข้ากับวอลล์เปเปอร์ลายอิฐโชว์แนว ล้อไปกับตีมการตกแต่งโดยรวมของตึก สีและลายสวยดี ดูเผินๆเหมือนอิฐมากแต่ห้ามจับห้ามลูบเพราะความจริงจะเปิดเผย
จากการสำรวจห้องตัวอย่างแล้ว ขอแนะนำว่า คนใจอ่อนอย่าเข้ามาดูโครงการเด็ดขาดฮะ เดี๋ยวจะเผลอไผลจองห้องไปไม่รู้ตัว
บทสรุป
ChapterOne Midtown Ladprao24 คอนโดเพื่อคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดในการใช้ชีวิตที่แตกต่าง ทำออกมาได้ “แตกต่าง” อย่างชัดเจนในส่วนของล๊อบบี้ และพื้นที่ส่วนกลาง แต่ในส่วนห้องพัก แม้จะพยายาม”แตกต่าง” แต่ทำออกมายังไม่โดดเด่นนัก ได้แค่ “กลิ่นๆ ผิวๆ” แต่ก็เข้าใจได้ว่าการสร้างคอนโดออกมาขาย “แมส” จะให้นอกกระแสมากนัก อาจจะขายไม่ออกได้ เลยต้องทำแบบ ก้ำกึ่งๆ ไปไม่สุดทางอย่างที่เห็น
สำหรับผู้ซื้ออยู่เอง
ถ้าถามว่าคอนโดนี้สวยไหม ตอบว่า สวย เสร็จแล้วจะน่าอยู่ไหม ตอบว่า น่าอยู่แน่นอน จากประสบการณ์ที่เคยซื้อคอนโดของทีม 2 พฤกษา (Styish Residence) ผมมั่นใจว่า งานออกมาสวยงามเหมือนในภาพ Rendering แน่ๆ ทีมนี้เค้า passion เยอะ ส่วนในข้อบกพร่องในอดีตที่เคยเจอมา ผมเห็นความพยายามที่จะแก้ไขปรากฏอยู่ในผลงานตัวใหม่ๆของทีมนี้เค้าเรื่อยๆนะ พูดง่ายๆคือทีมนี้เขาเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว พร้อมรับฟังคำติชมจากลูกค้าและนำไปปรับปรุงเสมอ จึงคิดว่า Midtown น่าจะออกมาดูดีเหมือนตีฟ เป็นคอนโดที่คนซื้อภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ อวดเพื่อนฝูงได้ไม่อายใคร
ส่วนในแง่การลงทุน ซื้อไว้จะราคาขึ้นไหม ผมคิดว่า แม้ว่าราคาตั้งจะอยู่ 120,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งนับว่าสูงมากสำหรับลาดพร้าว แต่โครงการ The Whisdom ของแมกโนเลีย ที่อยู่ใกล้ๆกัน กำลังจะเปิดโครงการในเดือนกุมภานี้ ราคาที่เปิดออกมาคือ 140,000-150,000 บาทต่อตร.ม.ซึ่งสูงกว่าอีก ข้อได้เปรียบของ The Whisdom คือพี่แกอยู่ตรงสี่แยกแบบติดทางขึ้นลงรถไฟฟ้าเลย ส่วนตัวผมไม่ค่อยซีเรียสเพราะระยะเดิน 150 เมตร สำหรับผมถือว่ารับได้ไม่ต่างกันนัก การอยู่ใกล้ถนนมากเกินไปก็มีข้อเสียเรื่องเสียงและฝุ่นควันรบกวน ส่วนในแง่หน้าตา ตัว The Whisdom ทำออกมาแนวแสนสิริ คือ โมเดิ้น หรูหรา อลังการ อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบ ผมยังไม่เห็น rendering และห้องตัวอย่าง เลยยังตอบไม่ได้ ผ่านไปเห็นกำลังเร่งก่อสร้างกันอยู่ แต่ถ้ากล้าตั้งราคาขนาด 150 k กับทำเลลาดพร้าว คงไม่กล้าทำของห่วยออกมาแน่ๆ
ทั้งสองโครงการนี้ ผมคิดว่าภาพรวมเมื่อตึกเสร็จออกมาน่าอยู่สูสีกัน ดังนั้นถ้า The Whisdom เปิดขายแล้วยอดวิ่งฉลุย ตัว Midtown จะกลายเป็นราคาถูกไปเลย
สงครามคอนโด ณ สีแยกนี้ยังมีอีกหลายยก ถ้ารถไฟฟ้าสายสีเหลืองอนุมัติเมื่อไรรับรองเดือดกว่านี้อีก รอดูกันต่อไปฮะ
ภาพและ Animation นำมาจากเวป http://www.stylishresidences.com/th/ChapterOneMidtownLadprao24.html ครับ